ใครชอบช้อปตามกระแสบ้างยกมือขึ้น เสียเงินไปตั้งเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ได้สบู่สมุนไพรที่ไม่เหมาะกับผิวมาใช้จนกองเต็มบ้านไปหมดแล้ว เผลอๆ ใช้ไปใช้มาได้ของแถมที่ทำให้สภาพผิวแย่ลงอีก เช่น สิวผด สิวอักเสบ ผิวหน้าแห้ง น้ำมันส่วนเกิน และอีกหลากหลายอย่าง แม้สบู่สมุนไพรจะผสมด้วยสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ แต่ต้องจำไว้เสมอว่าสภาพผิวที่แตกต่าง วิธีการดูแลผิวหน้าก็แตกต่างและอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน
เรียนรู้สภาพผิวและวิธีดูแลผิวหน้าที่แตกต่างเพื่อเลือกใช้สบู่สมุนไพรให้เหมาะสม
รู้ไหมว่าสภาพผิวของคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จากปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพอากาศ ฮอร์โมน อากาศ และอาหาร บางคนตอนวัยรุ่นมีผิวที่มันมาก แต่พอเข้าสู่วัยกลางคนผิวกลับเปลี่ยนเป็นผิวแห้งเสียอย่างนั้น หรือบางคนช่วงไหนทานขนมหวานนมเนยเยอะ จากไม่เคยเป็นสิว ก็มีสิวขึ้นแถมตามด้วยความมันบนใบหน้าก็เพิ่มขึ้นอีกต่างหาก เมื่อตัวแปรมีเยอะมากขนาดนี้ วิธีดูแลผิวหน้าและการเลือกซื้อสบู่สมุนไพรให้ถูกกับผิวจึงไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป
ผิวมัน ใครที่มีสภาพผิวมันมักจะเจอกับภาวะที่น้ำมันส่วนเกินถูกขับออกมามากจนเกินไป จนทำให้หน้ามันง่ายแม้จะเพิ่งล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ โดย Dr.Doris Day ผู้ก่อตั้ง Day Dermatology and Aesthetics บอกเอาไว้ว่า ยิ่งคนที่มีรูขุมขนกว้างหรือรูขุมขนใหญ่มากเท่าไหร่ ต่อมน้ำมันก็ยิ่งทำงานมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นตัวการแห่งการเกิดสิวบนผิวหน้าเลยทีเดียว
วิธีดูแลผิวหน้าสำหรับผิวมัน สำหรับผิวหน้าที่มีความมันสูง แนะนำให้ใช้สบู่สมุนไพรที่ปราศจากสารก่อฟองหรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง แนะนำให้ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่ใช้น้ำผึ้งเป็นส่วนผสม เพราะน้ำผึ้งจะช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยลดสิวได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอย่างชาร์โคลหรือผงถ่านที่ดูดซับความมัน ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นแบบพอดีก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่งเช่นเดียวกัน
ผิวแห้ง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าทาครีมเท่าไหร่ผิวก็ยังแห้งอยู่ แถมผิวเริ่มดูหมองคล้ำและไม่มีชีวิตชีวา ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่มีเซลล์ผิวที่ตายแล้วเกิดขึ้นเนื่องจากไม่ได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ แม้ว่าจะทาครีมแล้วก็ตาม นอกจากนี้ผิวแห้งจะมีรูขุมขนและรอยแดงที่มองไม่เห็น อาจจะมีผิวที่เป็นขุยและผิวลอกเกิดขึ้นด้วยหากคุณมีผิวที่แห้งมากๆ
วิธีดูแลผิวหน้าสำหรับผิวแห้ง หากใครมีผิวแห้ง ควรพยายามหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน นอกจากนี้ต้องมองหาสบู่สมุนไพรที่ให้ความชุ่มชื่นและอ่อนโยนต่อสภาพผิว โดยลองมองหาส่วนผสมสำคัญๆ อย่างเช่น น้ำมันมะพร้าว ที่มีกรดไขมันธรรมชาติซึ่งจะช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้พยายามดื่มน้ำให้เยอะขึ้น และเลือกรับประทานอาหารเพื่อบำรุงผิวพรรณ เช่น มะเขือเทศ ถั่ว แครอท เป็นต้น
ผิวผสม ผิวแบบผสมนั้นมักจะมีน้ำมันบริเวณหน้าผากและจมูก หรือที่เรียกว่าทีโซน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมน้ำมันมากกว่าบริเวณอื่น ในขณะเดียวกันบริเวณแก้มกลับแห้งไร้ความมัน นอกจากนี้บางคนอาจจะมีปัญหาบริเวณรอบปากที่แห้งหรือมันจนเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้เป็นสิวและเกิดอาการแพ้ได้ง่ายมากขึ้น
วิธีดูแลผิวหน้าสำหรับผิวผสม ถึงแม้จะมีทั้งแห้งและมันปนกันการรักษาสมดุลให้ผิวด้วยการเลือกสบู่สมุนไพรที่เหมาะสมก็ถือเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานในการดูแลผิวผสมเลยทีเดียว การมองหาส่วนผสมอย่างเช่น น้ำผึ้งที่ให้ความชุ่มชื่นและต้านแบคทีเรียก็เหมาะกับผิวผสม หรืออาจจะมองหาส่วนผสมอย่างอัลมอนด์ ซึ่งสามารถผลัดเซลล์ผิว ช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกก็ดีต่อผิวผสมด้วยเช่นกัน
Reference:
https://www.healthline.com/health/home-remedies-for-oily-skin#aloe-vera
https://www.webmd.com/beauty/whats-your-skin-type#1
https://www.today.com/style/5-different-skin-types-which-type-skin-do-you-have-t152786
https://www.healthline.com/health/home-remedies-for-dry-skin#antioxidants-and-omega–3s
KW
Focus สบู่สมุนไพร 8 = 1.14%
Relate วิธีดูแลผิวหน้า 6 = 0.8%