ใครเคยเจอปัญหาเรื่องรังแคบ้าง? แม้ว่าจะเปลี่ยนแชมพูขจัดรังแคมาหลายขวดแล้ว แต่อาการคันหนังศีรษะและรังแคก็ไม่เห็นจะลดลงเสียที หากคุณกำลังเจอปัญหาแบบนี้ต้องอ่านต่อด่วนเลย แต่ก่อนอื่นคุณมั่นใจหรือเปล่าว่าคุณมีปัญหารังแค หรือว่าเป็นแค่หนังศีรษะแห้งลอกเฉยๆ เพราะอาการของทั้งสองอย่างนี้ค่อนข้างคล้ายกัน จนทำเอาหลายคนเข้าใจผิด เผลอไปซื้อแชมพูขจัดรังแค แทนที่จะมาดูแลเรื่องหนังศีรษะแห้งซึ่งเป็นต้นตอแห่งปัญหา
ก่อนใช้แชมพูขจัดรังแคเช็คให้ชัวร์ก่อนว่าแค่มีรังแคคันหนังศีรษะหรือเป็นแค่หนังศีรษะแห้ง
รู้ไหมว่ารังแคและหนังศีรษะแห้งมีอาการที่แทบจะเหมือนกัน จนหลายคนมักเข้าใจผิด ซึ่งส่วนใหญ่จะเจอกับสะเก็ดร่วงและคันหนังศีรษะเหมือนๆ กัน ดังนั้นต้องลองสังเกตดีๆ ก่อนเสมอ
- หนังศีรษะแห้ง หากหนังศีรษะของคุณแห้ง แถมผิวหนังในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็มีอาการแห้งด้วยเช่นกัน ภาวะแบบนี้การใช้แชมพูขจัดรังแคอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากนัก เพราะคุณกำลังมีปัญหาผิวแห้งอยู่ บางคนมักจะมีอาการคันหนังศรีษะร่วมด้วย โดยสาเหตุมักจะเกิดจาก สภาพอากาศที่เย็นและแห้ง ผิวหนังอักเสบที่เกิดจากการแพ้เคมี เช่น ผลิตภัณฑ์ตกแต่งผม อายุที่มากขึ้น ส่วนใหญ่หนังศีรษะแห้งจะมีเกล็ดเล็กๆ แห้งๆ หลุดร่วงออกมา ต่างจากรังแคที่จะเป็นเกล็ดขนาดใหญ่
- รังแค สาเหตุของรังแคมากจากผิวบริเวณหนังศีรษะเกิดการอักเสบจากซีบอร์เฮอิก (Seborrheic dermatitis) ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้หนังศีรษะมีอาการมัน แดงและเป็นสะเก็ด จะมีเกล็ดสีขาวหรือสีเหลืองหลุดออกทำให้เกิดรังแค ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะทำให้คุณรำคาญและต้องเกาอยู่บ่อยๆ เพราะอาจจะก่อให้เกิดอาการคันหนังศีรษะด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เชื้อราที่เรียกว่า Malassezia ก็เป็นตัวการทำให้เกิดรังแค โดยเชื้อราชนิดนี้หากเรามีมากเกินไป จะทำให้เซลล์เพิ่มจำนวนขึ้นเร็วผิดปกติ ซึ่งต้นเหตุก็มักจะมาจาก อายุ ฮอร์โมน และความเครียด โดยอาการผิวมันแดงเป็นเกล็ดมักจะเป็นข้อแตกต่างระหว่างอาการหนังศีรษะแห้งและรังแค ซึ่งหากเลือกใช้แชมพูขจัดรังแคอย่างเหมาะสมอาการก็ดีขึ้นได้
บอกลาปัญหารังแคและอาการคันหนังศีรษะ
ถ้าหากว่าคุณมีรังแคและอาการคันรุนแรงและต่อเนื่อง แม้ว่าจะใช้แชมพูขจัดรังแคเพื่อลดรังแคและอาการคันหนังศีรษะแต่ก็ไม่ดีขึ้นซักที แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ด่วน ส่วนคนที่ไม่ได้มีอาการรุนแรง สามารถหาซื้อแชมพูขจัดรังแคมาใช้เองได้ หรืออาจเลือกแชมพูสูตรสมุนไพรที่อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ แนะนำว่าก่อนใช้แชมพูขจัดรังแค ควรพยายามขจัดคราบที่เป็นสะเก็ดหรือคราบบนหนังศีรษะออกก่อน เพราะจะทำให้แชมพูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนคนที่มีอาการคันหนังศีรษะลองมองหาแอปเปิ้ลไซเดอร์ซึ่งช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย การอักเสบและเชื้อรา หรือลองใช้น้ำมันมะพร้าวซึ่งอุดมไปด้วยกรดลอริกที่มีไขมันอิ่มตัว ก็จะช่วยผ่อนคลายอาการคันหนังศีรษะได้อย่างดีทีเดียว
เรื่องที่ต้องรู้และข้อควรระวังเกี่ยวกับแชมพูขจัดรังแค
หลายครั้งที่แชมพูขจัดรังแคสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่ส่วนผสมบางประเภทก็อาจจะไม่เหมาะกับสภาพผิวหนังศีรษะของคุณได้เช่นกัน เช่น ทีทรีออยล์ มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อราและแบคทีเรีย แต่ก็อาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ในบางคน ส่วนผสมน้ำมันถ่านหินมีสารต้านเชื้อรา แต่ก็อาจจะทำให้หนังศีรษะไวต่อแสงแดดจนเกิดการระคายเคืองได้ ที่สำคัญควรสระผมด้วยแชมพูขจัดรังแค่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งและอาจจะลองวัดผลอีกทีเมื่อครบหนึ่งเดือน
Reference:
https://www.medicalnewstoday.com/articles/152844#treatment
https://www.healthline.com/health/home-remedies-for-itchy-scalp
https://www.healthline.com/health/best-dandruff-shampoo
https://www.healthline.com/health/dandruff-itchy-scalp
KW
Focus แชมพูขจัดรังแค 11 = 1.5%
Relate คันหนังศีรษะ 8 = 1.1%